
แต่ถ้าเมื่อเป็นร้านอาหาร นั่นแสดงให้เห็นถึงความเก๋า แล้วถ้ายิ่งไม่ปล่อยให้หยุดอยู่แค่แบบเดิมๆ จึงทำให้ ซินยอร์ ปิโก้ ร้านอาหารสไตล์เม็กซิกัน มีผู้คนหมุนเวียนสับเปลี่ยนเพื่อที่จะได้สัมผัสเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร แต่อาจต่างสไตล์ตามช่วงเวลา
ความโดดเด่นของซินยอร์ ปิโก้ ยกให้นับตั้งแต่ก้าวแรกเมื่อไปถึงร้านที่ตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 ของโรงแรมแรมแบรนดท์ ซอยสุขุมวิท 18 เพราะทิ้งการจราจรและฝูงชนไว้เบื้องหลัง มาอยู่ท่ามกลางสีสันแบบเม็กซิกัน
ซึ่งความเป็นเม็กซิกันในความคิดเพนฟิ่นนั้น ให้นึกถึงทั้งทุ่งหญ้าบวกกับทะเลทราย ที่มีแต่ต้นกระบองเพชร งานศิลป์สไตล์เม็กซิกันเลยมีทั้งความร้อนแรง ร่าเริง แต่อยู่บนพื้นฐานความเป็นธรรมชาติ แล้วยิ่งชนในชาติส่วนใหญ่ที่ใช้ภาษาสเปน คงยิ่งทำให้วัฒนธรรมแห่งความรื่นเริงเต็มอยู่บนความเป็นเม็กซิกันนี้
เจ้าของโรงแรมแรมแบรนดท์ที่รักการเดินทาง เมื่อไปพบกับร้าน ซินยอร์ ปิโก้ ในลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา จึงติดต่อขอซื้อแฟรนไชส์เพื่อมาเปิดที่โรงแรมแห่งนี้ แต่ปัจจุบันซินยอร์ ปิโก้ ในแอลเอ ได้ปิดกิจการไปแล้ว ดังนั้นจึงเหลือเพียงที่กรุงเทพฯ นี่แหละให้ได้สนุกสนาน และอิ่มอร่อยแบบเม็กซิกัน
อาหารที่เน้นเนื้อ ปลา กุ้ง ไก่ ปรุงรสโดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงรสชาติเดิมๆ ของเนื้อสัตว์เหล่านี้ไปมากนัก เพื่อยังให้คงความหวาน และถ่ายทอดกลิ่นเนื้อสัตว์แต่ละชนิดออกมาได้เต็มที่ เพียงแต่เพิ่มเครื่องเทศ เครื่องปรุง และพวกพริกต่างๆ ที่เป็นแบบเม็กซิกัน ที่ก็มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันไปจากพริกขี้หนูของไทยที่เคยคุ้น รสเผ็ดนั้นออกแนวร้อนแรงแต่เพียงชั่ววูบ

ความนุ่มลิ้นนั้นยกให้จานเนื้อวัว ที่มีชื่อจำยากว่า ฟาจิตาส เนื้อชั้นเยี่ยม ปรุงด้วยความสุกพอดี มีซอสนานาชนิด หรือจะรับประทานคู่กับข้าวหุงที่ใส่เครื่องเทศ ก็ทำให้อิ่มอร่อยรองท้อง...เพื่อราตรีที่ยังอีกยืดยาว สำหรับอาหารที่นี่จะเป็นจานใหญ่ อาจจะเลือกสั่งแล้วมาแลกเปลี่ยนลองชิมกันก็ได้
จบเรื่องอาหารแล้วไปต่อกันที่เครื่องดื่ม ของแท้ก็ต้องเป็น เตกีลา ซึ่งถ้าหากชีวิตสับสนมาทั้งวันจนไม่รู้จะเรียงความคิดอย่างไหนก่อนหลัง ลองพบกับเครื่องดื่มชนิดนี้โดยที่ไม่ต้องมีอย่างอื่นปรุงแต่ง เพียงรินจากขวด มีเกลือ และมะนาว ก็เป็นวิธีดื่มง่ายๆ ตามสไตล์คนตัวใหญ่ในทวีปอเมริกา แต่กับคนไทยต้องอย่าลืมว่า ความมีสติสำคัญสุด หรือจะเบาะๆ แค่ลองให้รู้ว่าเครื่องดื่มประเภทนี้เป็นอย่างไร ก็ลองสูตรค็อกเทลมีอยู่มากมาย ภายใต้เตกีลาที่เป็นหลัก แต่ก็ระวังหน่อยนะ พี่ต้อยบาร์เทนดี มือหนักเอาการอยู่
ความสดใสร่าเริงแบบเม็กซิกัน หรือละตินนี้ ยังถ่ายทอดชัดเจนด้วยดนตรี และเสียงเพลง เพียงเครื่องดนตรีไม่กี่ชิ้น แต่เน้นในเรื่องเครื่องเคาะประกอบจังหวะ และกีตาร์หลักๆ อีกสัก 2 ตัว ได้นักร้องพลังเสียงเป็นเยี่ยม ไม่ว่าเพลงช้า หรือเร็ว ก็ดูมีพลังอยู่ในตัวเอง แค่บรรเลงเริ่มต้นด้วยเพลงช้า แต่ด้วยลีลาช้าแบบละติน ก็ทำให้เราโยกตัวตามได้ไม่ยาก จนเมื่อดนตรีเร่งเร้าจึงเหมือนเชิญชวนให้ได้ไปลองออกสเต็ป ซึ่งวงที่นี่จะเปลี่ยนทุก 6 เดือน จึงเป็นความไม่จำเจหากได้แวะเวียนมา

ผู้ที่เต้นจังหวะละตินไม่เป็นก็ไม่ต้องกังวลไป เมื่อมาที่ซินยอร์ ปิโก้ ขอเพียงแค่ให้มีใจว่าอยากจะลองดูสักตั้ง ที่นี่ก็มีครูที่มีความเชี่ยวชาญพร้อมจะผลักดันลีลาเท้าไฟที่ซ่อนอยู่ในตัว ให้ปรากฏออกมา แล้วใครที่มาแล้วไม่มีคู่ของตัวเองมาด้วย ก็ไม่ต้องไปหาใครที่ไหน พนักงานในร้านทุกคนมีความสามารถในเรื่องนี้ นำโดย นางผู้จัดการสาวสวย ที่เมื่อเห็นครั้งแรก ด้วยผิวเข้ม ตาคม เรานึกว่าต้องส่งภาษา ..โอลา ทักทายกันเสียแล้ว แต่นางเป็นคนไทยที่นอกจากจะมีความเชี่ยวชาญในเรื่องแนะนำอาหารและเครื่อง ดื่มแล้ว การออกสเต็ปของเธอก็ทำให้เราจ้องไม่วางตา
แล้วที่สร้างความรื่นเริงต่อไปได้อีกเมื่อเริ่มดึก พ่อครัวที่ในช่วงหัวค่ำทำอาหารเสิร์ฟกันมือเป็นระวิง ก็แปลงกายมาเป็นหนุ่มบนสเตจอันร้อนเร่า (ภายใต้ชุดพ่อครัวนั่นล่ะ) ออกสเต็ปสุดมันด้วยเพลง อาเซเรเฮ เพลงสเปนที่เคยดังเมื่อไม่นานมานี้ในเมืองไทย พอได้ยินอีกที มือไม้ก็เต้นตามได้ไม่ยาก ส่วนพ่อครัว (รูปหล่อ) นั้นหรือ ก็ได้เสียงกรี๊ดไปถ้วนหน้า และเพื่อเป็นการฉลองกับที่ปีนี้เป็นปีที่ 14 แล้ว สำหรับซิยอร์ ปิโก้ เลยมีความพิเศษให้กับผู้สั่งเครื่องดื่ม 1 แก้ว แถม 1 แก้ว ไปจนถึงสิ้นเดือนต.ค.นี้
ข้อมูล http://www.posttoday.com/
0 comments:
Post a Comment