Ads Header

Pages

Saturday, July 3, 2010

ห้วยห่ายหลัว ดินแดนสุดมหัศจรรย์เหนือพรรณนา

ห้วยห่ายหลัว หรือ ห้วยหอยสังข์ (Hailuogou Glacier Park) เป็นวนอุทยานธารน้ำแข็งแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในอำเภอหลูติ้ง (Luding) แคว้นปกครองตนเองชนชาติทิเบตกานจือ มณฑลเสฉวน ห่างจากนครเฉิงตู 319 กิโลเมตร ห่างจากอำเภอคางติ้งซึ่งเป็นเมือง เอกของแคว้นกานจือ 105 กิโลเมตร


ห้วยห่ายหลัว กำเนิดจากลำห้วยที่มีน้ำแข็งเคลื่อนตัวละลาย ณ ลาดเขาด้านตะวันออกของภูเขาก้งก่า ภูเขาก้งก่ามีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 7,556 เมตร ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของเทือกเขา เหิงต้วน ห้วยห่ายหลัวไหลจากทางตะวันตกเฉียงใต้สู่ ทางตะวันออกเฉียงเหนือแล้วไหลเข้าแม่น้ำโม่ซีเหอซึ่ง เป็นสาขาของแม่น้ำต้าตู้เหอ

ลำห้วยนี้ยาว 3,017 กิโลเมตร มีเนื้อที่ 220 ตารางกิโลเมตร ในวนอุทยานนี้มีทั้งธารน้ำแข็งธรรมชาติ ภูเขาหิมะที่สูงสง่าน้ำพุร้อนที่ร้อนสบาย สัตว์ป่าและพฤกษชาติป่าดงดิบดอกไม้ป่าและสมุนไพร จีนโซนหนาวเป็นต้น

ห้วยห่ายหลัว ถูกนิตยสารเนชั่นแนลจีโอกราฟฟิกแห่งประเทศจีน ยกย่องให้เป็น 1 ใน 6 ธารน้ำแข็งที่สวยที่สุดของจีน ที่นี่มีน้ำพุร้อนที่มีแรงเสน่ห์ดึงดูดคู่รักและครอบครัว มีป่าดิบที่คงสภาพดั้งเดิมอย่างดีที่สุด มีป่าธรรมชาติมากพอเทียบกับเกาะแทสเมเนียของประเทศ ออสเตรเลีย มีน้ำตกไหลจากเขาสูงและมีขนบธรรมเนียม ประเพณีของชนเผ่าที่แปลกตาน่าสนใจ





ที่นี่มีป่าต้นไม้ใบกว้างแบบสิบสองพันนา มีป่าต้นสนภูเขาแบบภูเขาฉาง ไป๋ซานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีป่าต้นเบิร์ชแบบที่ราบสูงภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน มีน้ำพุร้อนหลั่งไหลพลั่งพรูออกปรากฏการณ์ธารน้ำแข็ง ภูเขาหิมะและ น้ำพุร้อนอยู่ในพื้นที่เดียวกัน เป็นสิ่งน่าอัศจรรย์ที่หาเจอยาก น้ำตกน้ำแข็งในห้วยห่ายหลัวเป็นน้ำตกน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ได้ค้นพบมา ยังเป็นหนึ่งในน้ำตกน้ำแข็งที่มีระดับต่างในการลดลงของน้ำมากที่สุดของโลก ด้วย

เมื่อได้เห็นน้ำตกที่ยิ่งใหญ่คุณจะรู้สึกปลื้มปิติยินดีเป็นอย่าง ยิ่ง เสมือนดั่งได้พ้นจากความผูกพันธ์ของมนุษย์โลก แล้วเข้าสู่อีกโลกหนึ่ง และหลงใหลในเสห่น์พิเศษของ น้ำตกน้ำแข็งอย่างลึกซึ้ง

เมืองโม่ซี ในบริเวณห้วยห่ายหลัวชื่อเป็นภาษามุหยา ซึ่งมีความหมายว่าที่พักในเนินเขา มุหยาเป็นชนเผ่าดั้งเดิมที่อาศัยที่นี่และเคยเจริญรุ่งเรืองในประวัติศาสตร์ บริเวณนี้เป็นเขตย่านรอบตะเข็บในการตั้งถิ่นฐานระหว่างชนชาติทิเบตกับชนชาติ ฮั่น และเป็นเขตรอยต่อระหว่าง เขตเลี้ยงปศุสัตว์กับเขตการเกษตร ในกระบวนการที่ วัฒนธรรมของชาวปศุสัตว์และวัฒนธรรมข้าวชาวฮั่นเกิดความขัดแย้งและผสมกลมกลืน จนได้ยกระดับ และพัฒนาเป็นวัฒนธรรมชายขอบที่มีสีสันเข้มข้น





ชาวพื้นเมืองที่นี่มีชนชาติทิเบต ชนชาติฮั่น ชนชาติโลโลและเผ่ามุหยา เป็นหลักขนบธรรมเนียมต่างๆ เช่นพิธีแต่งงาน พิธีฌา- ปณกิจ เป็นต้น ซึ่งยังคงรักษาประเพณีดั้งเดิมของชนชาติทิเบตไว้

เมื่อยืนอยู่ที่เชิงเขาห้วยห่ายหลัว ชะเง้อมองภูเขาหิมะ ก้งก่าอันยิ่งใหญ่เกรียงไกรที่มีหิมะปกคลุงตลอดปี ทำให้เกิดความเคารพเลื่อมใสศรัทธาอย่างสุดซึ้ง พอพระอาทิตย์ส่องแสงยังเขาหิมะ ปรากฏเป็นทิวทัศน์อันแพรวพรายรุ่งโรจน์สุดสายตาสวยงดงามเป็นอย่างยิ่ง บนแผ่นดินที่เต็มไปด้วยหิมะและน้ำแข็งนี้ กลับมีบ่อน้ำพุร้อนที่มีอุณหภูมิถึง 90 องศา นี่ก็คือค่ายที่พักน้ำพุร้อนหมายเลข 2 ของห้วยห่ายหลัว

นักท่องเที่ยวเข้ามายังพื้นที่เหมือนแดนสวรรค์แห่งนี้สามารถนั่งแช่น้ำพุ ร้อนอย่างสุขสบาย สระน้ำพุที่น้ำใสสีครามนั้น เสมือนทะเลย่อ ส่วนในช่วงฤดูร้อนได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทุกสารทิศของโลก

ห้วยห่ายหลัว เป็นกลุ่มธารน้ำแข็งที่มีธารน้ำแข็งลักษณะทะเลมากที่สุดขนาดใหญ่ที่สุด ใกล้กับเส้นศูนย์สูตรที่ สุดและมีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลต่ำมากที่สุดของประเทศจีน โดยมีธารน้ำแข็งใหญ่เล็กทั้งหมด 110 กว่าสาย เมื่อเราเดินอยู่ในป่าดงดิบนี้ ธารน้ำแข็งยังเป็นสิ่งที่ห่างไกลจากเรา เพราะริมทางเต็มไปด้วยต้นไม้สูงระฟ้าและแมกไม้เขียวขจี


ไม่ว่าไปทางไหนก็มีน้ำพุหวานชุ่มคอทุกที่ น้ำพุเหล่านี้บ้างก็พลั่งพรูจากใต้ดิน บ้างก็เป็นธารน้ำใสๆบ้างก็เป็นน้ำตกที่ไหลลงจากหน้าผา น้ำไหล อย่างเบาๆ ช้าๆ เสมือนม่านที่สานด้วยลูกเพชรพลอยที่สวยงาม แสงแดดสาดสู่น้ำตกน้ำแข็งสีน้ำเงิน สะท้อน แสงสว่างลานตา น้ำแข็งรูปทรงหลากหลายต่างๆ และ “เห็ดน้ำแข็ง” ประกอบ เป็นโลกในนิทานของเด็ก

เมื่อเดินบนธารน้ำแข็ง บนธารน้ำแข็งเต็มไปด้วยก้อน น้ำแข็งเล็กๆ เหมือนลูกกรวดเล็กๆตัวหนักๆมากมาย กรวดน้ำแข็งอันมากมายเหล่านี้ปกพื้นดินที่ลำห้วยอย่างหนาแน่น ห้วยห่ายหลัวมีธารน้ำแข็งใหญ่เล็กมากมาย ธารน้ำแข็งใหญ่ที่สุดคือธารน้ำเข็งหมายเลข 1 ซึ่งปกติ ก็เรียกว่าน้ำตกใหญ่ยาวประมาณ 14 กิโลเมตร

ถ้ามองจากค่ายที่พักหมายเลข 4 จะเห็นน้ำตกกว้าง 1,100 เมตรมีระดับต่างในการลดลงของน้ำถึง 1,080 เมตร น้ำตกน้ำแข็งเสมือนทางช้างเผือกไหลเชี่ยวกรากลงมาจากท้องฟ้า ทิวทัศน์อันมหัศจรรย์ที่ไม่เคยมีมาก่อนและจะไม่มีในที่ อื่นนี้ หากไม่ได้เห็นกับตา อาจไม่มีคำใดคำหนึ่งสามารถ มาพรรณนาความแปลกประหลาดและความใหญ่โตน่าตื่นตาตื่นใจของน้ำตกนี้ได้ ตอนท้ายของธารน้ำตกน้ำแข็ง ลึกเข้าในป่าประมาณ 6 กิโลเมตร ก่อเกิดทิวทัศน์มหัศจรรย์ที่มีธารน้ำแข็งกับป่าดงสามารถอยู่ร่วมกัน

เมื่อยืนบนค่ายหมายเลข 3 ของห้วยห่ายหลัว ชมอาทิตย์อุทัยที่เหลืองอร่ามงามตา พอแดดกล้าก็สาดแสงแวววาว ตอนค่ำแสงจันทร์อันผุดผ่องสุกใสก่อให้เกิดบรรยากาศ อันบริสุทธิ์เคร่งขรึม ข้อมูล เพิ่มเติม นิตยสารแม่ น้ำโขง
Read more

สัมผัสหิมะบนที่ราบสูงยูนนานที่เมืองเต๋อชิง

เมืองเต๋อชิง ของแคว้นปกครองตนเองชนชาติทิเบตตี๋ชิ่ง เป็นอำเภอที่ตั้งอยู่เหนือสุดของภาคตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลยูนนาน ด้านตะวันตกเชื่อมกับเขตปกครองตนเองทิเบต ด้านตะวันออกติดกับมณฑลเสฉวน เทือกเขานู่ซานที่ยาวแคบและแม่น้ำหลานชางเจียงที่เชี่ยวกราก ขนานกันเป็นแนวยาวจากเหนือลงใต้ ประกอบเป็นภูมิประเทศภูดอยหุบเขาที่มีลักษณะพิเศษ





เต๋อชิง ตั้งอยู่ในทางตะวันออกของแม่น้ำหลานชางเจียง (แม่น้ำโขงตอนบน) ภายในอำเภอมีเขาสูงหุบเหว ภูเขา หิมะ ธารน้ำแข็ง เต็มไปด้วยป่าดงที่หนาทึบ เนื่องจากมีสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ อากาศสดชื่น ขนบประเพณี ชนเผ่าทิเบต ลีซอ และนู่ในท้องถิ่นมีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจไม่กี่ปีมานี้ เต๋อชิงได้พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อน หย่อนใจซึ่งเป็นที่นิยมชมชอบของผู้คนทั่วไป

ภูมิอากาศที่มีลักษณะพิเศษของเต๋อชิงคือ ฤดูหนาว ที่มีหิมะและน้ำค้างแข็งมาเร็วแต่จากไปช้า จำนวนวันที่มีหิมะตกค่อนข้างมาก ปริมาณหิมะที่ตกก็มากในบางปี หิมะจะเริ่มตกตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่หิมะตกนานที่สุดนั้น จนถึงเดือนมิถุนายนของปีถัดไปยังอาจจะมีหิมะปลิวว่อน ฉะนั้นการที่มีโอกาสเจอ “หิมะตกเดือนมิถุนายน” ในเมืองเต๋อชิงก็มิใช่ของแปลก


เนื่องจากภูมิอากาศหนาวจัด หิมะที่ตกจะทับถมบนพื้นดินและไม่ละลายอย่างง่ายๆ ตามทั่วไป ถัวเฉล่ียในแต่ละปีจะมีวันหิมะตก 56 วัน ปีที่ตกมากที่สุดจะมากถึง 101 วัน บางปีที่หิมะตกในปริมาณมาก จำนวนวันที่มีหิมะทับถมจะมากถึง 84 วันต่อปี ทำให้เต๋อชิงเป็น “เมืองหิมะบนที่ราบสูง” สมดังชื่อถ้าหิมะตกหนักเพียงตกแค่คืนเดียวหิมะก็สามารถปกคลุมสิ่งปลูกสร้าง สูงๆต่ำๆในตัวเมือง และพื้นที่แอ่งกระทะระหว่างภูเขา วาดตามองไป จะเห็นเป็นโลกสีเงินขาวโพลนสุดสายตา

เมื่อฤดูหนาวผ่านไปก็จะเป็นฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงที่สั้นมากของเมือง เต๋อชิง เดือนกรกฎาคม สิงหาคมมีอุณหภูมิถัวเฉลี่ย 11-12 องศา สูงสุดก็ประมาณ 17 องศาโดยไม่มีอากาศฤดูร้อนแบบร้อนจัดและชื้นอบอ้าว ผู้คนที่เต๋อชิงต้องห่มผ้านวมและผ้าพรมขน สัตว์เวลานอนตลอดทั้งปี ชาวทิเบต ชาวลิซอ และชาวนู่ ในท้องถิ่น





ไม่่ว่าหญิงชายจะสวมเสื้อคลุมยาว ผูกผ้ารัด เอวตลอดเวลา ต้องรับประทานชาเนย เนื้อวัว เนื้อแพะและเนื้อแกะที่ให้แคลอรีสูง เพื่อให้เหมาะสมกับสิ่งแวดล้อมด้านอากาศของที่ราบสูง ในฤดูฝนพอฝนหยุดท้องฟ้าปลอดโปร่ง เดินเล่นกลางป่าหรือบนทางเล็กๆในชนบท ท่ามกลางอากาศที่สดชื่นและทิวทัศน์ที่ราบสูงอันสวยงามทำให้จิตใจสบายปลอด โปร่งเป็นอย่างยิ่ง





ภูเขาหิมะเหมยหลี่ของเต๋อชิงอยู่ทางตะวันตกของ แม่น้ำหลานชางเจียง ภูเขาหิมะเป็นกลุ่มๆเรียงรายเป็นแนวจากเหนือถึงใต้ในบริเวณหลายสิบกิโลเมตร สันเขาของภูเขาหิมะมียอดเขาหิมะเป็นอันมาก ยอดเขาที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 6,000 เมตรขึ้นไปก็มี 10 กว่าลูก โดยมียอดเขาหิมะข่าเก๋อป๋อ (ยอดเขาราชบุตร)ที่ขาวบริสุทธิ์ เหมือนดั่งก่อขึ้นด้วยหินหยกสูงตะหง่านเสียดฟ้า มีความ สูง 6,740 เมตร





นับว่าเป็นยอดเขาสูงที่สุดของมณฑลยูนนานเชิงเขาเป็นป่าดง เต็มไปด้วยต้นสนหิมะและต้นฉำฉาหนาว ที่เขียวขจีทำให้เกิดความเคร่งขรึมและน่าเกรงขามท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบ สงัด ชาวทิเบตในท้องถิ่นเคารพนับถือยอดเขาหิมะข่าเก๋อป๋อเป็น “เขาเทวดา” และ “เทพ เจ้าแห่งภูเขาหิมะ” ข้อมูลเพิ่มเติม นิตยสารแม่น้ำโขง
Read more

“สวรรค์บนดิน”ที่ซูโจว ซูโจว

ซูโจว เริ่มสร้างเมืองขึ้นเมื่อ 514 ปีก่อนคริสตกาล หรือเมื่อพ.ศ.29 เป็นเมืองน้ำแห่งบูรพาที่มีประวัตินานกว่า 2500 ปี ตั้งอยู่มณฑลเจียงซู ประเทศจีน เปรียบเสมือนชาหอมวิเศษกาหนึ่ง ที่ไอชายังระเหยลอยวนโชยกลิ่นหอมจนกระทั่งถึงบัดนี้


ในยุคชุนชิว (ช่วง 770 ปีถึง 476ปีก่อนคริสต์ศักราช) ที่นี่เป็นเมืองหลวงของรัฐหวู มีโบราณสถานมากมายที่อนุรักษ์ไว้ตราบเท่าทุกวันนี้เมืองนี้เริ่มใช้ชื่อซู โจวเมื่อปีค.ศ.589 หรือพ.ศ.1132 ในราชวงศ์สุยจนถึงปัจจุบัน ซูโจวสร้างเมืองมานาน มีขนาดใหญ่ การคมนาคมทางน้ำกับทางบกควบคู่กัน สายน้ำกับถนนในตลาดเคียงคู่กัน ตัวเมืองเก่ายังคงตั้งอยู่ ณ ที่เดิมจวบจนทุกวันนี้ ซึ่งไม่ค่อยเป็นที่ปรากฏทั้งในและนอกประเทศจีน







อุทยานสวนบ้านซูโจว สวยเป็นเอกในปฐพี ถูกจัดเข้าสู่รายชื่อมรดกวัฒนธรรมโลกแล้ว ในอุทยานลือชื่อทั้ง 4 แห่งของประเทศจีน ซูโจวก็มี 2 แห่ง คืออุทยานบ้านจัวเจิ้งหยวนและอุทยานบ้านหลิวหยวน ส่วนหู่ชิว หรือ เนินเสือ ขึ้นชื่อว่า “ทัศนียภาพชื่อดังอันดับหนึ่งในรัฐหวู” เป็นทิวทัศน์ที่มีวัฒนธรรมสั่งสมมาเป็นระยะเวลายาวนาน กลายเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวที่มาซูโจวต้องไปชม





นอกเมืองซูโจวมีทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม ริมทะเลสาบไท่หูมีผาหลิงแหยน เนินเขาเทียนผิง เทียนฉือเป็นต้น ประกอบเป็นทิวทัศน์สีสันภูดอยกับทะเลสาบที่มีเอกลักษณ์แห่งลุ่มแม่น้ำแยงซี เกียงตอนล่าง





ซูโจวมีทั้งความสวยงามของอุทยาน มีความโดดเด่นทางภูดอยหนองบึง วิวธรรมชาติกับทิวทัศน์แห่งวัฒนธรรมมนุษย์ผสมผสานกลมกลืน รวมทั้งบทกวีคำกลอนที่บรรดานักปราชญ์ประพันธ์ขึ้นเพื่อพรรณนาชื่นชม ทำให้ซูโจวกลายเป็น “สวรรค์บนดิน” อย่างสมชื่อ ข้อมูลเพิ่มเติม นิตยสารแม่น้ำโขง
Read more

อาบน้ำแร่ ขี่ช้างชมดอยที่ "บ่อน้ำพุร้อนผาเสริฐ"

บ่อน้ำร้อนผาเสริฐ อยู่บริเวณริมลำห้วยโป่งน้ำร้อน บ้านผาเสริฐพัฒนา หมู่ที่ 6 ตำบลดอยฮาง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย


แต่เดิมบ่อน้ำพุร้อนผาเสริฐ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณที่ลุ่มใกล้ลำน้ำกก ในฤดูฝนปริมาณน้ำในลำน้ำกกได้ไหลท่วมนองในพื้นที่บ่อน้ำร้อนเป็นเวลาหลาย เดือน และขาดการนำน้ำร้อนมาใช้อย่างจริงจัง มีเพียงการนำหน่อไม้มาแช่ต้มเท่านั้น ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2545 องค์การบริหารส่วนตำบลดอยฮาง

ได้ ริเริ่มให้มีการพัฒนาและปรับปรุงปรับสภาพภูมิทัศน์บริเวณบ่อน้ำร้อนผาเสริฐ โดยของบประมาณการดำเนินการจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย และงบประมาณขององค์การบริหารส่วนตำบลดอยฮางเองจนมาถึงปัจจุบัน

การพัฒนาและปรับปรุงได้เสร็จสมบูรณ์ตามเป้าหมายอยู่ในระดับหนึ่ง บ่อน้ำพุร้อน ผาเสริฐสามารถเปิดบริการอาบน้ำแร่เพื่อสุขภาพแบบบ่อรวมกลางแจ้งขนาดใหญ่ , อาคารอาบน้ำแร่แบบบ่อแยกอาบน้ำแร่ระบบสปา จำนวน 3 อาคาร 8 ห้อง , บริการนวดแผนไทย , บริการให้เช่าเต้นท์พักแรม , การจัดแค้มป์ไฟเป็นหมู่คณะ





และในบริเวณเดียวกันยังมีปางช้างผาเสริฐบริการช้างนำเที่ยวทุ่งดอกบัวตองใน ฤดูหนาวที่บานสะพรั่งทั่วหุบเขา นำเที่ยวหมู่บ้านชาวเขาเผ่าอาข่า เผ่าลาหู่และนำเที่ยวน้ำตกห้วยแก้ว ทั้งระยะใกล้และระยะไกล

นอกจากนี้ยังได้จัดทำท่าเรือบ้านผาเสริฐ ให้นักท่องเที่ยวที่ล่องแพตามลำน้ำกกมาจากบ้านท่าตอน หรือโดยสารเรือหางยาวนำเที่ยวชมทัศนียภาพขึ้น-ล่องตามลำน้ำกก ได้แวะพักมาใช้บริการอาบน้ำแร่ ขี่ช้าง เที่ยวน้ำตกหรือเที่ยวหมู่บ้านชาวเขาที่อยู่บริเวณใกล้เคียงได้อีกด้วย





อัตราค่าบริการด้านต่างๆ
ปางช้างผาเสริฐ - บริการนั่งช้างชมทุ่งดอกบัวตอง ระยะใกล้เชือกละ 200 บาท
- บริการนั่งช้างไปบ้านอาข่าผาเสริฐเชือกละ 300 บาท - บริการนั่งช้างไปน้ำตกห้วยแก้ว ระยะไกล เชือกละ 700 บาท ท่าเรือเชิง สะพานแม่ฟ้าหลวง
- เช่าเรือหางยาวแบบเหมาลำไป-กลับ บ่อน้ำร้อนผาเสริฐ ลำละ 600 บาท นั่งได้ 8 คน ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที
บ่อน้ำพุร้อนผาเสริฐ - บริการอาบน้ำแร่แบบกลางแจ้ง อัตรา ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท - บริการห้องอาบน้ำแร่แบบแยกอาบส่วนตัวระบบสปา อัตรา 1 คน 40 บาท , 2 คน 70 บาท , 3 คน 90 บาท
- บริการเช่า เต้นท์นอน ขนาดเล็ก 50 บาท/คืน , ขนาดกลาง 100 บาท/คืน , ขนาดใหญ่ 150 บาท/คืน - บริการจัดแคมป์ไฟเป็นหมู่คณะ อัตราตามจำนวนคนที่มาใช้บริการ
จองห้องอาบน้ำแร่ล่วงหน้า โทรศัพท์ 0-5360-9117

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม องค์การ บริหารส่วนตำบลดอยฮาง ต.ดอยฮาง อ.เมือง จ.เชียงราย โทร / แฟ็กซ์ 053-716436(อบต.ดอยฮาง)หรือ สำนัก งานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย
Read more

"แมนดารินเฮ้าส์" คฤหาสน์ขุนนางจีนในมาเก๊า

แมนดารินเฮ้าส์ เป็นบ้านที่สร้างขึ้นใน ค.ศ. 1881 โดยนักประพันธ์จีนผู้ยิ่งใหญ่นามว่า เฉิง กวนยิ่ง (Zheng Guanying) เป็นตัวอย่างของบ้านอยู่อาศัยของชาวจีนโบราณ





โดยภายในบริเวณบ้านจะประกอบด้วยเรือนหลายหลัง มีอาณาบริเวณ และลานหน้าบ้าน ทั้งยังผสมด้วยรายละเอียดของความเป็นจีน และตะวันตกอย่างลงตัว อาทิ การใช้อิฐสีเทาประดับโค้งประตู หรือหน้าต่างระแนงทำจากไม้ซุง ประดับด้วยแผ่นกระดานสี่เหลี่ยมกรุมุกด้วยลวดลายอินเดีย





บ้านแมนดารินเฮ้าส์ ถือว่าเป็นบ้านที่สร้างขึ้นจากเงินภาษีของชาวจีน ปัจจุบันได้รับการบูรณะปฎิสังขรณ์ให้งดงาม และคงลักษณะของบ้านตามแบบของชาวจีน






แมนดารินเฮ้าส์ ที่อยู่ :No 10, Travessa de António da Silva, Macau
เปิดให้เข้าชม :10:00 - 18:00 น. (ปิดวันพุธและวันพฤหัสบดี)
ค่าเข้าชมฟรี โทรศัพท์ : (853) 2896 8820 เว็บไซด์ : http://www.wh.mo/mandarinhouse รถประจำทางสายที่ผ่าน : 9, 16, 18, 28B
ข้อมูลเพิ่มเติม องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวมาเก๊า
Read more

ไปดูเสาหินสีแดงที่เกาะวาซิลเยฟกี้

การมาเที่ยวนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก นั้นดูมีความหมายสำหรับการเดินทางของเราในครั้งนี้ มีคนบอกว่ามาแล้วไม่มีคำว่าผิดหวัง ซึ่งครั้งนี้เราก็ได้ประจักษ์แล้ว ว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ


เกาะวาซิลเยฟกี้ (Vasilyevsky Island) เป็นเกาะเล็กๆที่มีชื่อเสียงของนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย ซึ่งแน่นอนว่ามาเที่ยวเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก คุณต้องไม่พลาดแวะมาเยือนเกาะแห่งนี้อย่างแน่นอนค่ะ





เกาะวาซิลเยฟกี้ เป็นถือว่าเป็นสถานที่ตั้งขององค์กรสำคัญๆหลายๆแห่ง ไม่ว่าจะเป็นที่ตั้งของสถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์ สถาบันทางศิลปะ มหาวิทยาลัย พุชกิ้นเฮ้าส์ หรือสถาบันทางอักษรศาสตร์ องค์การเหมืองแร่ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา (ช้างแมมมัธ) อาคารตลาดหลักทรัพย์ (Stock Exchange) ซึ่งแต่ละแห่งล้วนมีความโดดเด่นไม่แพ้กัน







และที่ดูสะดุดตาเป็นพิเศษ ก็คงเป็น เสาหินสีแดงคู่ขนาดใหญ่ (The Rostal Column) ที่ตั้งตระหง่านอยู่ริมท่าเรือของเกาะ การท่องเที่ยวเกาะเล็กๆแห่งนี้อาจใช้เวลาไม่นานมากนัก และถือว่าเป็นจุดแวะเที่ยวที่นักท่องเที่ยวต่างแวะเวียนมาเยี่ยมชมอยู่เสมอ
Read more

MENU



คุยกันถูกคอก็แบบนี้หล่ะ

ShoutMix chat widget