Ads Header

Pages

Monday, August 16, 2010

สัมผัสดินแดนบริสุทธิ์ที่ "จางเจียเจี้ย"

เมืองจางเจียเจี้ย (张家界) ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลหูหนาน ในภาคกลางของจีน เป็นประตูเชื่อมภาคกลางกับภาคตะวันตกของประเทศจีน





จางเจียเจี้ย เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของจีนซึ่งลือชื่อด้วยทรัพยากรการ ท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ของตนเอง แหล่งท่องเที่ยวสำคัญในเมืองจางเจียเจี้ยเป็นพื้นที่ป่าไม้ถึง 98% ซึ่งนับเป็นออกชิเจนบาร์ธรรมชาติ

และเนื่องจากเป็นเมืองที่อยู่ห่างไกลที่น้อยคนจะเดินทางไปถึง อีกทั้งชาวจางเจียเจี้ยผู้ซึ่งรักในธรรมชาติ ได้ดำเนินนโยบายอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างมีประสิทธิผล เมืองจางเจียเจี้ยจึงประดุจดั่งดินแดนบริสุทธิ์ของโลก







นอกจากนี้แล้ว ณ ที่แห่งนี้ยังเป็นแหล่งชุมชนของ 33 ชนเผ่า เช่น ชนเผ่าถู่เจีย ชนเผ่าไป๋ และชนเผ่าเหมียว สภาพภูมิศาสตร์ที่มีเอกลักษณ์ทำให้วัฒนธรรมของชนเผ่าต่างๆ ได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดี





เมืองจางเจียเจี้ย เป็นประตูเชื่อมภาคกลางและภาคตะวันตกของจีน ซึ่งมีระบบขนส่งแบบครบวงจรที่รวมถึงการบิน ทางรถไฟ และทางด่วน จึงมีความได้เปรียบในการดึงดูดการลงทุนอย่างเห็นได้ชัด







เมืองจางเจียเจี้ยยังได้เปิดสายการบินไปยังเมืองขนาดใหญ่และขนาดกลางอีกกว่า 20 แห่ง เช่น กรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ และฮ่องกง นอกจากนี้ยังเปิดบริการเครื่องบินเช่าเหมาลำไปยังเมืองนาโกย่าของญี่ปุ่น กรุงโซลและเมืองพูซานของเกาหลีใต้ ข้อมูลเพิ่มเติม CRI
Read more

สัมผัสวิถีแห่งเกาหลีที่ "หมู่บ้านพื้นเมืองยังดอง"

เกาหลี เป็นอีกประเทศที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวมากพอสมควร การท่องเที่ยวหมู่บ้านพื้นเมืองก็ดูจะน่าสนใจไม่น้อย โดยหมู่บ้านที่เราจะพาคุณไปเที่ยวในวันนี้คือ หมู่บ้านพื้นเมืองยังดอง หมู่บ้านที่ยังคงอนุรักษ์วิถีและวัฒนธรรมโบราณไว้ได้เป็นอย่างดี





หมู่บ้านพื้นเมืองยังดอง (Yangdon Folk Village) ในช่วงสมัยโชซอนหมู่บ้านแห่งนี้เป็นเมื่องที่อยู่อาศัยของชนชั้นกลางและชั้น สูง กว่า 60 หลังคาเรือนทั้งใหญ่และเล็ก

ซึ่งถูกสร้างขึ้นตามหลักการทำนายโดยการดูรูปดินทราย ที่โปรยลงไปว่าส่งเสริมการประสานกลมกลืนกัน ระหว่างจักรวาลหยินหยางทั้งสองภาคหรือไม่


โดยบ้านอยู่อาศัยจะถูกจัดเรียงกันบนเชิงเนินเพื่อที่ว่าจะได้สามารถมองเห็น หมู่ บ้านทั้งหมดทุกลังจากทางเดินตีนเขา บ้านส่วนใหย๋ยังคงมีผู้อยู่อาศัยแต่ก็มีบางหลังที่ถูกทิ้งร้างว่างเปล่าทำ ให้ง่ายต่อการเยี่ยมเยียนและเข้าชม เปิดให้เข้าชมตลอดเวลาโดยไม่เสียค่าเข้าชม





วิธีการเดินทาง : โดย รถโดยสารไปอันดองที่สถานีขนส่งต้นทางเกียงชู (Gyeongju Bus Terminal) (รถออกทุกๆ 15 นาที ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที) และต่อรถไปยังหมู่บ้านยางดอง (รถออกวันละ 5 เที่ยว, ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที) ข้อมูลเพิ่มเติม องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี
Read more

แหล่งโบราณคดีบ้านดงละคร “ เมืองลับแล ” จังหวัดนครนายก

หล่งโบราณคดีบ้านดงละคร หรือ เมืองดงละคร ตั้งอยู่ตำบลดงละคร อ.เมือง จ.นครนายก อยู่ห่างจากตัวจังหวัดไปทางทิศใต้ประมาณ 9 กิโลเมตร โดยกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียน เป็นโบราณสถานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2478


เมืองดงละคร แต่เดิมเรียกกันว่า “ เมืองลับแล ” เป็นสถานที่ตั้งเมืองโบราณสมัยขอมมีอำนาจ มีแนวกำแพงเป็นเนินดินและคูเมืองปรากฏอยู่ ชาวบ้านเรียกกันว่า “ สันคูเมือง ” มีคูน้ำล้อมรอบ ซึ่งเป็นแบบเมืองทวารวดีทางภาคกลางของไทย

ความรุ่งเรืองที่เด่นชัดแบ่งเป็นสองช่วง ช่วงแรกเริ่มในราว พุทธศตวรรษที่ 14-16เป็นวัฒนธรรมแบบทวารวดี ช่วงที่สองราวพุทธศตวรรษ ที่ 17-19 เป็นวัฒนธรรมเขมรและวัฒนธรรมก่อนกรุงศรีอยุธยา





โดยสันนิษฐานว่าน่าจะมีความสำคัญเกี่ยวข้องกับเมืองศรีมโหสถ ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 55 กิโลเมตร โบราณวัตถุที่ค้นพบ เช่น เศียรพระพุทธรูปกะไหล่ทอง ขนาดเท่าปลายนิ้วก้อย ตราประทับหัวแหวนรูปปู ช้าง แหวนสำริด ลูกปัดแก้ว ลูกปัดหิน ตุ้มหูสำริด

ตำนานเมืองลับแลนั้นยังเล่ากันว่า เมืองนี้เคยเป็นเมืองของราชินีขอม ซึ่งเป็นที่รโหฐาน ผู้อื่น ไม่สามารถเข้าออกได้ ประกอบกับลักษณะของบริเวณเมือง มีไม้ใหญ่ขึ้นอยู่ทั่วไป ใครเข้า ไปแล้วอาจหาทางออกไม่ได้ จะต้องวนเวียนอยู่ในดงนั้นเองและในวันโกนวันพระ จะได้้ยินเสียงกระจับปี่ ซอ ปี่พาทย์ มโหรีขับกล่อม คล้าย ๆ กับมีการเล่นละครในวัง





ต่อมาชาวบ้าน จึงเรียกกันว่า “ดงละคร ” หรืออีกนัยหนึ่ง คำว่า “ ดงละคร ” นั้นอาจเพี้ยนมาจาก “ ดงนคร ”นั่นเอง ข้อมูลเพิ่มเติม ททท.สำนักงานนครนายก
Read more

MENU



คุยกันถูกคอก็แบบนี้หล่ะ

ShoutMix chat widget