บ้านระเบียงไม้

บ้านระเบียงไม้ ตั้งอยู่บริเวณก่อนถึงสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำระยอง (อะคอร์เรี่ยม รอยอง) ต.เพ จ.ระยอง เป็น ร้านอาหารทะเล อยู่ริมชายหาดที่มีชื่อว่า "ศาลาเขียว"จุดชมวิวของบ้านเพ ที่ สามารถมอกเห็นเกาะเสม็ดในมุมที่สวยงาม ลมพัดเย็นสบายตลอดทั้งวัน เรา เปิดบริการให้ท่านได้อิ่มอร่อย ตั้งแต่เวลา 10.00 น - 23.00 น. ทุกวัน

บรรยากาศภายในร้าน

เมนูแนะนำ
อาหารส่วนใหญ่ เป็นอาหารจำพวก อาหารซีฟูดส์ อาหารทะเลสดๆ อาทิ

แผนที่

สำรองโต๊ะและสอบถามเส้นทาง
083-1118651, 038-896148






ขอบคุณข้อมูล
http://www.baanrabeangmai.com/

Read more

น้ำตกห้วยหอย น้ำตกสวยแห่งปากาเกอญอ

อำเภอแม่วาง คืออีกหนึ่งอำเภอที่น่ามาเยือนของจังหวัดเชียงใหม่ แน่นอนว่าหลายคนที่เคยมาเยือนอาจยังไม่ทราบว่า อำเภอแม่วางก็มีแหล่งท่อเงที่ยวที่น่าสนใจหลายๆแห่งเช่นกัน

น้ำตกห้วยหอย คือแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยน้ำตกตั้งอยู่ที่ บ้านห้วยหอย หมู่ที่ 19 ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจ และมีความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง

จากนี้แล้วนักท่องเที่ยวที่มาเยือนยังสามารถสัมผัสกับชีวิตความเป็นอยู่ของชาวปากาเกอญอที่ใช่ชีวิตอยู่กับป่า อาศัยป่าในการดำรงชีวิต ส่วน น้ำตกว่ากอแลจะตั้งอยู่ที่บ้านประตูเมือง ซึ่งแยกออกมาจากบ้านห้วยหอย หมู่ที่ 19 ระยะทางระหว่างน้ำตกนักท่องเที่ยวจะเดินด้วยเท้าประมาณครึ่งกีโล ซึ่งน้ำตกทั้งสองเป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี

ข้อมูลโดย องค์การบริหารส่วนตำบล อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ 0-5326-8800

Read more

เล่นสกีทรายที่เมืองจงเว่ย

เมืองจงเว่ย (中卫) ตั้งอยู่ทางภาคกลางและภาคตะวันตกของเขตปกครองตนเองชนเผ่าหุยหนิงเซี่ยของจีน ในเขตเชื่อมต่อของ 3 มณฑล ได้แก่ เขตปกครองตนเองชนเผ่าหุยหนิงเซี่ย มณฑลกานซู่ และเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน

เมืองจงเว่ย เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง มีแหล่งท่องเที่ยวชั้นยอดของประเทศ มีมนต์เสน่ห์ที่ไม่มีใครเสมอเหมือนทั้งในด้านธรรมชาติและวัฒนธรรม

เขตซาพัวโถว（沙坡头）เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ 5A กลุ่มแรกของประเทศ มีแปลงต้นข้าวสาลีทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น "สิ่งมหัศจรรย์ของโลก" และเป็นโอเอซิสกลางทะเลทราย สอดประสานกับแม่น้ำเหลืองที่เชี่ยวกรากไหลผ่าน

ซึ่งปัจจุบันมีรายการท่องเที่ยวหลากหลาย เช่น การเดินบนสะพานโซ่เหล็กข้ามแม่น้ำเหลือง การล่องแพที่ทำจากหนังแกะ และการเล่นสกีทราย ซึ่งล้วนมีมนต์เสน่ห์พิเศษที่ทำให้นักท่องเที่ยวดื่มด่ำจนไม่อยากกลับ

เมืองจงเว่ยมีระบบการคมนาคมที่สะดวกสบาย เป็นชุมทางรถไฟใหญ่เป็นอันดับ 3 ที่เชื่อมพื้นที่ภาคตะวันตกเฉียงเหนือกับภาคเหนือของจีน อีกทั้งเป็นจุดที่ต้องแวะผ่านซึ่งเป็น "ประตูเข้า-ออก ตะวันตก-ตะวันออก" ของเส้นทางใหญ่ยุโรป-เอเชีย

นอกจากนี้ สนามบินเซียงซาน（香山）ที่เมืองจงเว่ยยังได้เปิดบริการในปี 2008 ซึ่งถือว่าเป็นการเปิดศักราชการขนส่งทางอากาศของท้องถิ่น ทำให้การเข้าออกเมืองนี้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ข้อมูลเพิ่มเติม CRI

Read more

เมืองเตกีลา เสน่ห์แห่งภูเขาไฟและบลู อากาเว

เตกีลา ชื่อที่ใครหลายๆคนอาจคุ้นเคย แต่ก็คงจะมีน้อยคนที่รู้ลึกเกี่ยวกับ เตกีลา อย่างแท้จริง โดยเฉพาะถ้าเอ่ยถึง ต้นบลู อากาเว (blue agave) แน่นอนว่าคุณคงไม่รู้จัก

แต่ถ้าบอกว่า ต้นบลู อากาเว หรือ เตกีลา นั่นคงช่วยเฉลยข้อสงสัยให้คุณได้ไม่มากก็น้อย วันนี้เราจึงขอพาคุณไปตลุยดินแดนแห่ง เตกีลา เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ใครหลายๆคนอาจกำลังหลงรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้น

หากคุณมุ่งหน้าไปทางตะวันตก ของรัฐฮาลิสโก ของประเทศเม็กซิโก ไปประมาณ 60 กม ที่นี่คุณจะพบกับเมืองที่มีชื่อว่า เตกีลา (Santiago de Tequila) เมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการปลูกต้นบลู อากาเว ซึ่งเป็นพืชพื้นเมืองของเม็กซิโก

คุณคงสงสัยว่า ต้นบลู อากาเว นัน้มีความสำคัญอย่างไรกับเมืองเตกีลา แน่นอนว่าพื้นที่ระหว่างเชิงเขาของภูเขาไฟเตกีลาและหุบลึกของแม่น้ำรีโอ กรันเด (Rio Grande River)จะอธิบายในทุกคำตอบที่คุณสงสัยได้อย่างถ่องแท้ค่ะ

ภูเขาไฟเตกีลาและหุบลึกของแม่น้ำรีโอ ถือว่าเป็นสวรรศ์ของนักเดินทางท่องเที่ยวผจญภัย ด้วยทัศนียภาพของท้องทุ่งบลูอากาเว และชุมชนเมืองเตกีลา นอกจากนั้นคุณอาจแวะไปชม โบสถ์ Santiago Apostol ซึ่งเป็นโบสถ์ประเมืองได้อีกด้วยค่ะ

เมืองเตกีลา เป็นอีกเมืองที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรม จนได้รับการรับรองให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.2006 การท่องเที่ยวในเมืองจะเน้นในเรื่องของการให้ความรู้เกี่ยวกับการผลิต เครื่องดื่มที่หมักมาจาก ต้นบลู อากาเว อย่างเตกีลา ชมโรงกลั่นขนาดใหญ่ที่ทำการหมักและกลั่นผลเตกีลา ซึ่งสะท้อนให้เห็นการเติบโตของเครื่องดื่มชนิดนี้อีกด้วยค่ะ

สำหรับคนที่เป็นคอดื่ม เตกีลา คงน่าเสียดายไม่น้อย หากคุณจะพลาดการมาเยือนเมืองที่เป็นต้นกำเนิดของเครื่องดื่มที่คุณชื่นชอบ สักครั้งหนึ่ง

Read more

บุกป่า...ฝ่าน้ำชม น้ำตกตาดพรานบา

พอ ฝนเริ่มโรยรา สายน้ำที่เคยล้นตลิ่งก็เริ่มลดลง จากน้ำขุ่นๆก็เริ่มใส่แจ๋ว มองดูสายน้ำสวยๆ ใจก็พลันอยากจะไปเที่ยวน้ำตกขึ้นมาทันที เพชรบูรณ์ เป็นอีกจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย

น้ำตกตาดพรานบา ก็เป็นอีกน้ำตกที่มีความสวยงามของอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จังหวัดพชรบูรณ์ โดยน้ำตกตาดพรานบา เป็นน้ำตกที่มีลักษณะเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ปานกลาง ตกจากหน้าผาสูงประมาณ 20 เมตร น้ำตกจากหน้าผาสูงพุ่งเป็นลำสู่เบื้องล่างเป็นสองชั้น มีน้ำซึ่งเกิดจากลำน้ำเชิญตลอด

สาเหตุที่น้ำตกมีชื่อว่า ตาดพรานบา เนื่องจากพรานบาเป็นผู้เข้าไปพบน้ำตกแห่งนี้เป็นคนแรก สำหรับคำว่าตาดนั้นเป็นภาษาพื้นบ้านท้องถิ่นหมายถึง น้ำตก

การเดินทางเข้าอยู่ใกล้ที่ ว่าการกิ่งอำเภอน้ำหนาว กิโลเมตร 20 ทางหลวงสายบ้านห้วยสนามทราย-อำเภอหล่มเก่า เป็นทางลูกรังรถยนต์เข้าถึงน้ำตก ข้อมูลเพิ่มเติม กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

Read more

สัมผัสดินแดนบริสุทธิ์ที่ "จางเจียเจี้ย"

เมืองจางเจียเจี้ย (张家界) ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลหูหนาน ในภาคกลางของจีน เป็นประตูเชื่อมภาคกลางกับภาคตะวันตกของประเทศจีน

จางเจียเจี้ย เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของจีนซึ่งลือชื่อด้วยทรัพยากรการ ท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ของตนเอง แหล่งท่องเที่ยวสำคัญในเมืองจางเจียเจี้ยเป็นพื้นที่ป่าไม้ถึง 98% ซึ่งนับเป็นออกชิเจนบาร์ธรรมชาติ

และเนื่องจากเป็นเมืองที่อยู่ห่างไกลที่น้อยคนจะเดินทางไปถึง อีกทั้งชาวจางเจียเจี้ยผู้ซึ่งรักในธรรมชาติ ได้ดำเนินนโยบายอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างมีประสิทธิผล เมืองจางเจียเจี้ยจึงประดุจดั่งดินแดนบริสุทธิ์ของโลก

นอกจากนี้แล้ว ณ ที่แห่งนี้ยังเป็นแหล่งชุมชนของ 33 ชนเผ่า เช่น ชนเผ่าถู่เจีย ชนเผ่าไป๋ และชนเผ่าเหมียว สภาพภูมิศาสตร์ที่มีเอกลักษณ์ทำให้วัฒนธรรมของชนเผ่าต่างๆ ได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดี

เมืองจางเจียเจี้ย เป็นประตูเชื่อมภาคกลางและภาคตะวันตกของจีน ซึ่งมีระบบขนส่งแบบครบวงจรที่รวมถึงการบิน ทางรถไฟ และทางด่วน จึงมีความได้เปรียบในการดึงดูดการลงทุนอย่างเห็นได้ชัด

เมืองจางเจียเจี้ยยังได้เปิดสายการบินไปยังเมืองขนาดใหญ่และขนาดกลางอีกกว่า 20 แห่ง เช่น กรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ และฮ่องกง นอกจากนี้ยังเปิดบริการเครื่องบินเช่าเหมาลำไปยังเมืองนาโกย่าของญี่ปุ่น กรุงโซลและเมืองพูซานของเกาหลีใต้ ข้อมูลเพิ่มเติม CRI

Read more

สัมผัสวิถีแห่งเกาหลีที่ "หมู่บ้านพื้นเมืองยังดอง"

เกาหลี เป็นอีกประเทศที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวมากพอสมควร การท่องเที่ยวหมู่บ้านพื้นเมืองก็ดูจะน่าสนใจไม่น้อย โดยหมู่บ้านที่เราจะพาคุณไปเที่ยวในวันนี้คือ หมู่บ้านพื้นเมืองยังดอง หมู่บ้านที่ยังคงอนุรักษ์วิถีและวัฒนธรรมโบราณไว้ได้เป็นอย่างดี

หมู่บ้านพื้นเมืองยังดอง (Yangdon Folk Village) ในช่วงสมัยโชซอนหมู่บ้านแห่งนี้เป็นเมื่องที่อยู่อาศัยของชนชั้นกลางและชั้น สูง กว่า 60 หลังคาเรือนทั้งใหญ่และเล็ก

ซึ่งถูกสร้างขึ้นตามหลักการทำนายโดยการดูรูปดินทราย ที่โปรยลงไปว่าส่งเสริมการประสานกลมกลืนกัน ระหว่างจักรวาลหยินหยางทั้งสองภาคหรือไม่

โดยบ้านอยู่อาศัยจะถูกจัดเรียงกันบนเชิงเนินเพื่อที่ว่าจะได้สามารถมองเห็น หมู่ บ้านทั้งหมดทุกลังจากทางเดินตีนเขา บ้านส่วนใหย๋ยังคงมีผู้อยู่อาศัยแต่ก็มีบางหลังที่ถูกทิ้งร้างว่างเปล่าทำ ให้ง่ายต่อการเยี่ยมเยียนและเข้าชม เปิดให้เข้าชมตลอดเวลาโดยไม่เสียค่าเข้าชม

วิธีการเดินทาง : โดย รถโดยสารไปอันดองที่สถานีขนส่งต้นทางเกียงชู (Gyeongju Bus Terminal) (รถออกทุกๆ 15 นาที ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที) และต่อรถไปยังหมู่บ้านยางดอง (รถออกวันละ 5 เที่ยว, ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที) ข้อมูลเพิ่มเติม องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี

Read more

แหล่งโบราณคดีบ้านดงละคร “ เมืองลับแล ” จังหวัดนครนายก

หล่งโบราณคดีบ้านดงละคร หรือ เมืองดงละคร ตั้งอยู่ตำบลดงละคร อ.เมือง จ.นครนายก อยู่ห่างจากตัวจังหวัดไปทางทิศใต้ประมาณ 9 กิโลเมตร โดยกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียน เป็นโบราณสถานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2478

เมืองดงละคร แต่เดิมเรียกกันว่า “ เมืองลับแล ” เป็นสถานที่ตั้งเมืองโบราณสมัยขอมมีอำนาจ มีแนวกำแพงเป็นเนินดินและคูเมืองปรากฏอยู่ ชาวบ้านเรียกกันว่า “ สันคูเมือง ” มีคูน้ำล้อมรอบ ซึ่งเป็นแบบเมืองทวารวดีทางภาคกลางของไทย

ความรุ่งเรืองที่เด่นชัดแบ่งเป็นสองช่วง ช่วงแรกเริ่มในราว พุทธศตวรรษที่ 14-16เป็นวัฒนธรรมแบบทวารวดี ช่วงที่สองราวพุทธศตวรรษ ที่ 17-19 เป็นวัฒนธรรมเขมรและวัฒนธรรมก่อนกรุงศรีอยุธยา

โดยสันนิษฐานว่าน่าจะมีความสำคัญเกี่ยวข้องกับเมืองศรีมโหสถ ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 55 กิโลเมตร โบราณวัตถุที่ค้นพบ เช่น เศียรพระพุทธรูปกะไหล่ทอง ขนาดเท่าปลายนิ้วก้อย ตราประทับหัวแหวนรูปปู ช้าง แหวนสำริด ลูกปัดแก้ว ลูกปัดหิน ตุ้มหูสำริด

ตำนานเมืองลับแลนั้นยังเล่ากันว่า เมืองนี้เคยเป็นเมืองของราชินีขอม ซึ่งเป็นที่รโหฐาน ผู้อื่น ไม่สามารถเข้าออกได้ ประกอบกับลักษณะของบริเวณเมือง มีไม้ใหญ่ขึ้นอยู่ทั่วไป ใครเข้า ไปแล้วอาจหาทางออกไม่ได้ จะต้องวนเวียนอยู่ในดงนั้นเองและในวันโกนวันพระ จะได้้ยินเสียงกระจับปี่ ซอ ปี่พาทย์ มโหรีขับกล่อม คล้าย ๆ กับมีการเล่นละครในวัง

ต่อมาชาวบ้าน จึงเรียกกันว่า “ดงละคร ” หรืออีกนัยหนึ่ง คำว่า “ ดงละคร ” นั้นอาจเพี้ยนมาจาก “ ดงนคร ”นั่นเอง ข้อมูลเพิ่มเติม ททท.สำนักงานนครนายก

Read more